แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องทำ 5 สิ่งนี้

เข้าสู่ปี 2562 อย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนคงมีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึงในปีนี้ โดยเฉพาะหลายคนที่อยากจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องพฤติกรรมการทำงานแล้ว ก็ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนจากตัวเราก่อน โดยเราได้รวบรวมมาทั้งสิ้น 5 นิสัยที่ควรเริ่มเพื่อให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น

1. ทำงานให้เสร็จก่อนเดดไลน์
ข้อแรกเป็นข้อที่ใครๆต่างมองข้าม เพราะโดยนิสัยคนไทยส่วนใหญ่แล้ว มักจะส่งงานตรงกับเดดไลน์พอดี ซึ่งจริงๆแล้ว การส่งงาน หรือทำให้เสร็จก่อนเวลา แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยนั้นมีประโยชน์มาก เพราะเราจะมีเวลาตรวจทาน รวมถึงอาจให้เพื่อนร่วมงานช่วยเช็ค และหัวหน้าก็จะมองเรา ว่าเป็นคนบริหารจัดการเวลาได้ดี

2. ลองขอรับผิดชอบงานที่ยากขึ้น
ข้อนี้ถือว่าค่อนข้างท้าทาย เราทุกคนมักจะเคยชินกับการทำงานที่ง่ายๆ หรืองานที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เพื่อนการพัฒนาตัวเอง และความก้าวหน้า การรับงานที่ยากขึ้นนั้นเป็นโอกาสให้เราได้แสดงผลงานให้เพื่อนร่วมงาน และผู้บริหารเห็น ซึ่งอาจนำไปสู่การพิจารณาเลื่อนขั้นได้

3. เริ่มเข้างานสัมมนา หรือเรียนคอร์สสั้นๆเพิ่มเติม
ปัจจุบันมีคอร์สราคาไม่แพง และงานสัมมนาฟรีมากมาย ที่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น โดยแนะนำให้ลองไปเข้าร่วมงานที่ไม่ตรงการสายงานของเราโดยตรงบ้าง เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ และสร้างสังคมใหม่ๆ

4. แต่งตัวให้ดีขึ้น
ข้อนี้อาจจะฟังดูขัดหูบ้าง แต่เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า เครื่องแต่งการเป็นส่วนสำคัญในการเสริมภาพลักษณ์ของเรา เสื้อผ้าไม่ต้องแพงมาก แต่ให้ดูดี เสริมบุคลิกเราก็พอ

5. ยอมรับข้อผิดพลาด และพยายามแก้ไข
ในการทำงาน ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่สำคัญเราต้องกล้าที่จะยอมรับและแก้ไข โดยทำให้เป็นนิสัยในทุกๆงานที่ได้รับ หากเราสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เราจะเป็นที่เคารพในบริษัทแน่นอน

หวังว่า 5 ข้อนี้จะเป็นประโยชน์ และสร้างข้อคิดดีๆต้อนรับปีใหม่ให้แก่ทุกท่านนะครับ… [อ่านต่อ]

ไม่มีแพลนไปเที่ยวต่างจังหวัด? มาดู 5 ที่เที่ยวในกรุงเทพฯช่วงปีใหม่กัน


1. ICON SIAM ที่เดินเล่นสุดชิลแห่งใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ
เปิดอย่างเป็นทางไปเมื่อไม่นานมานี้ นับว่าเป็นหนึ่งในอภิมหาโครงการที่ทุกคนรอคอย และที่สำคัญเป็นสถานที่แห่งแรกที่มีร้าน Apple Store อีกด้วย ภายในห้างสรรพสินค้าตกแต่งสวยงาม ตอบโจทย์หลายสไตล์ ห้างนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถดื่มดำบรรยากาศความงามของแม่น้ำยามค่ำคืนได้ด้วย

 

2. มหานคร สกายวอล์ค
อีกหนึ่งแลนมารค์ที่มีจุดเด่นคือ เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยล่าสุดเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวบริเวณชั้น 78 ซึ่งเราสามารถชมวิวเมืองกรุงเทพมหานครแบบพาโรนามา 360 องศา โดยช่วงเวลาที่แนะนำคือ 17.30น เป็นช่วงแดดอ่อนๆ ถ่ายรูปสวย และที่สำคัญคือการชมพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามมาก

 

3. ตลาดน้ำขวัญเรียม
นับว่าเป็นตลาดน้ำที่ยังมีความดังเดิมอยู่ ไม่เหมือนบางแห่งที่ดูเจาะจงทำให้นักท่องเที่ยวมากจนเกินไป ซึ่งตลาดน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมคลองแสนแสบ ณ วัดบำเพ็ญเหนือ เสรี 60 และวัดบางเพ็งใต้ รามคำแหง 187 จุดเด่นของที่นี้คือบรรยากาศเก่าๆ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และวิธีชีวิตชาวไทย เช่นตักบาตรพระทางเรือทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และดูการละเล่นไทยต่างๆ

4. เยาวราช
ย่านที่น่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นอกจากจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรม ทั้งศาลเจ้า วัดจีน วัดไทย ยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อ เมนูน่าลองมากมาย ให้เราได้ลองชิมตลอดทางตั้งแต่ช่วงเย็นจนไปถึงช่วงดึกกันเลยทีเดียว


5. วัดพระแก้ว
ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนที่ไม่มีแพลนไปไหนมาไหนช่วงปีใหม่ เพราะการเข้าวัดกราบพระ ขอพรต้อนรับปีใหม่ เป็นหนึ่งกิจกรรมพื้นฐานของคนไทยมาช้านาน หรือถ้ากลัวว่าช่วงปีใหม่คนอาจแน่น ก็ยังมีวัดรอบๆ อาธิวัดโพธิ์ วัดอรุณ และวัดระฆัง

[อ่านต่อ]

แนะนำโปรแกรมแก้ปัญหา เปิดเครื่องไม่ติด หน้าจอค้างที่โลโก้แอปเปิ้ล

แม้ว่าไอโฟนจะเป็นโทรศัพท์ที่มีคุณภาพสูง แต่เมื่อใช้งานไปสักพัก เครื่องก็อาจทำงานช้าลงบ้าง แต่ปัญหาที่น่าหนักใจที่สุดคงจะหนีไม่พ้น เครื่องเปิดไม่ติด โดยจะค้างอยู่ที่โลโก้แอปเปิ้ล หรือขึ้นหน้าจอสีดำ โดยสุดท้ายเราอาจต้องเสียเวลาส่งซ่อม แต่ล่าสุดเราสามารถแก้ปัญหาได้เอง โดยใช้โปรแกรม”ReiBoot”

ReiBoot คือโปรแกรมสำหรับ Recovery iOS ซึ่งสามารถเข้าไปซ่อมแซมระบบ โดยไม่ทำให้ข้อมูลหายแต่อย่างใด ซึ่งผู้พัฒนาอย่าง Tenorshare มีจุดประสงค์ที่จะสร้างโปรแกรมกู้ข้อมูล และซ่อมแซมระบบ ที่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างของระบบ iOS ได้ โดยฟังก์ชันการทำงานหลักของ ReiBoot มีดังนี้

1. การเข้าสู่โหมด Recovery ได้ง่ายๆ จากปกติที่ต้องพยายามกดที่ปุ่ม Volume และ Power หรือปุ่ม Home พร้อมกัน ต่อไปแค่เราใช้โปรแกรม ReiBoot ก็สามารถเข้าสู่โหมด Recoveryได้ไม่อยาก แค่คลิกที่โปรแกรมเพียงครั้งเดียว

2. ซ่อมแซมระบบ iOS และปัญหาอื่นๆ โดยไม่ทำให้ข้อมูลสูญหาย ถือเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องลบข้อมูลใดๆทิ้งเลย

3. Factory Reset หรือรีเซ็ทคืนสู่ค่าโรงงาน โดยไม่ต้องใช้ iTunes/Password เหมาะสำหรับผู้ใช้ไอโฟนส่วนใหญ่ที่มักลืมรหัสผ่าน และมีปัญหาเมื่อต้องตั้งค่าต่างๆใหม่

ด้านการใช้งานโปรแกรมก็ง่ายๆมาก เพราะผู้พัฒนาออกแบบให้โปรแกรมไม่ซับซ้อน ดังรูปต่อไปนี้


ใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่
ดาวน์โหลด

อ้างอิง[อ่านต่อ]

ไปเที่ยวญี่ปุ่น จีน เกาหลี อ่านป้ายไม่ออก แก้ด้วยแอป WAYGO

        หลายคนมีปัญหาเมื่อต้องเดินทางไปเที่ยวในประเทศยอดนิยมอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ในเมื่อเราไม่รู้ภาษานั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ต้องคอยอ่านป้ายบอกทาง แม้ว่าสามารถใช้ Google map แต่ถ้าต้องเข้าร้านอาหาร เมนูอาหารต่างๆก็ย่อมเป็นภาษาท้องถิ่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับนักเดินทางหลายท่าน ที่มักจะได้อาหารแปลกๆเพราะสั่งมั่วๆ


        ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นแอปลิเคชั่น Waygo แอปแปลภาษาจากการถ่ายรูปข้อความต่างๆโดยที่ไม่ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์ สะดวกมากสำหรับนักเดินทางที่ต้องคอยอ่านป้ายต่างๆ หรือต้องอ่านเมนูอาหารในภาษาที่เราไม่เข้าใจ
        แม้ว่า Google Translate มีฟังก์ชั่นที่คล้ายกับ Waygo แต่ผู้ใช้หลายท่านก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า Waygo สามารถทำงานได้ดี และเร็วกว่า Google Translate

        ในส่วนของวิธีการทำงานของแอปนั้นก็ง่ายมาก แค่เราเปิดแอปขึ้นมา จากนั้นแอปก็จะทำการลิงค์กับกล้องถ่ายรูปของมือถือ นำกล้องไปถ่ายบริเวณข้อความที่เราต้องการแปล และไม่นานคำแปลก็จะขึ้นมาโดยอัตโนมัติซึ่งถือว่าสะดวกมากจริงๆ

 

         โดยปัจจุบันภาษาที่รองรับการใช้งานสำหรับการแปลทั้งสิ้น 3 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และคาดว่าจะมีภาษาใหม่ๆเพิ่มเติมเร็วๆนี้

ดาวน์โหลดได้ที่ https://itunes.apple.com/us/app/waygo-chinese-japanese-and-korean-translator/id496038103?mt=8[อ่านต่อ]

ใช้ไอโฟนรุ่นใหม่แล้วแบตไม่พอเหรอ? Apple จัดให้ด้วยเคสใหม่

หากใครพบปัญหาว่าเจ้าไอโฟนรุ่นใหม่ที่ว่าประหยัดพลังงานกว่าเดิม แบตใหญ่กว่าเดิมนั้น ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะก็ หยอดกระปุกรอซื้อเคสใหม่พร้อมแบตเตอรี่ในตัวสำหรับไอโฟนของคุณได้เลย

เมื่อเวป 9to5Mac พบไอคอนใหม่ที่อยู่ใน watchOS 5.1.2 beta ที่มีลักษณะเหมือนเคสของ iPhone XR, XS, XS Max พร้อมแบตเตอรี่ในตัว จึงน่าจะเป็นไปได้ว่าทาง Apple จะเริ่มขายอุปกรณ์เสริมตัวใหม่นี้เร็วๆ นี้ครับ

ที่ผ่านมา Apple เคยทำเคสพร้อมแบตเตอรี่ในตัวสำหรับ iPhone 6, 6s, 7 มาแล้ว โดยขายที่ราคา $99 หรือประมาณ 3,500 บาท

ที่มา: MacRumors[อ่านต่อ]

ประกาศผู้โชคดีประจำเดือน พฤศจิกายน 2561

 

รายชื่อผู้โชคดีสำหรับท่านที่ใช้บริการ iTunes Gift Card กับทาง IGC.IN.TH ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2561 มาแล้วจ้า

ผลประกาศผู้โชคดี 3 ท่านประจำเดือนนี้ จะมาจากการสุ่มรายชื่อท่านที่สั่งซื้อผ่านระบบอัตโนมัติต่างๆ หรือแจ้งชำระเงินผ่านระบบออนไลน์บนหน้าเวปเท่านั้น โดยผู้โชคดีทั้ง 3 ท่านจะได้รับรางวัลบัตร iTunes Gift Card มูลค่า $25, $15 หรือ $10 ท่านละ 1 รางวัล[อ่านต่อ]

แนะนำสุดยอดแอปพลิเคชันสำหรับบล็อกเบอร์ขายประกัน ที่สำคัญใช้ฟรี


ทุกคนที่เคยเปิดบัญชีธนาคาร ไม่ว่าจะของที่ใดก็ตาม ไม่เกิน 3 เดือนแรกย่อมเจอคนโทรมาขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ บัตรเครดิต หรือประกัน ที่เรียกได้ว่า ถ้าเราเป็นคนไม่ใจแข็ง ปฏิเสธคนไม่เป็น ก็ได้คุยกันยาว เสียเวลาหลายนาทีเหมือนกัน โดยรวมแล้วปัญหาหลักที่ทุกคนเจอเหมือนๆกันคือ ไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ใคร ดังนั้นจึงเกิดแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Who Call – Caller ID & Block

ซึ่งแอปดังกล่าวมีหลักการทำงานที่ง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูงมาก แค่เราดาวโหลดลงเครื่อง จากนั้นทุกครั้งที่มีโทรศัพท์เข้า แอปพลิเคชันก็จะมีหน้าต่างเล็กๆแสดงขึ้นมา เพื่อบอกว่าใครโทรมา ซึ่งข้อมูลเบอร์โทรศัพท์นั้นก็มาจากผู้ใช้แอปพลิเคชั่นคนก่อนๆ ใส่ข้อมูลเข้าไปในแอปนั้นเอง เพียงแค่ต้องเปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ทขณะใข้งาน เพราะแอปพลิเคชันนี้ใช้ระบบคราวด์ในการดึง และแสดงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์

ในส่วนของเรา ก็สามารถใส่ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ใหม่เข้าไปเพิ่มได้เช่นกัน สมมุติว่าเราพบเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ต้องการรับสาย แต่เบอร์นั้นยังไม่มีข้อมูลในแอปพลิเคชัน เราก็สามารถกดบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปได้ ครั้งถัดไปเราก็สามารถหลีกเลี่ยงสายที่ไม่พึงปราถณาได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลารับสาย

ที่สำคัญคือแอปพลิเคชันนี้ สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด
ถือว่าเป็นแอปที่ประโยชน์ ควรค่าที่จะมีติดไว้ทุกเครื่องจริงๆ

คลิกเพื่อดาวน์โหลด[อ่านต่อ]

5 ความเชื่อ เรื่องวิธียืดอายุแบตเตอรี่ไอโฟนไปนานขึ้น (รึปล่าว)


ปัญหาโลกแตกของผู้ใช้ไอโฟนทุกคนคือแบตเตอรีที่อายุสั้นลง(เร็วขึ้นทุกวัน) แม้ว่ามีหลายคนออกมาวิเคราะห์ และแนะนำถึงวิธีการใช้ไอโฟนอย่างถนอมแบตเตอรี่ ซึ่งบางทีก็ได้ผล บางทีก็ไม่ได้ผล แต่โดยรวมแล้ว มี 5 ความเชื่อยอดนิยม ให้เราสามารถลองทำ แล้วพิสูจน์ดูว่าช่วยยืดอายุจริงหรือไม่

1. ปิดแอปที่ไม่ได้ใช้งานทันที
ปิดในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าแค่ปิดหน้าจอ แต่หมายถึงให้ปิดการใช้งานไปเลย เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อเราเปิดแอปขึ้นมา แอปนั้นจะทำงานต่อเนื่องแม้ ( BackGround running) ซึ่งเราอาจจะหลงลืมไปบ้าง


2. ไม่ชารท์แบตข้ามคืน
หลายปีก่อน เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงว่าช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้จริงหรือไม่ แต่ไม่นานมานี้มีการเปิดเผยว่าอายุแบตเตอรรี่ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ชาร์ท
หรือ Circle Count ร่วมถึงสมารท์โฟนรุ่นใหม่ๆ มีระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นมาก ดังนั้นการเรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับอายุการใช้งาน

3. เปลี่ยนแบตเตอรี่กับทางแอปเปิ้ล
สืบเนื่องจากปีที่แล้ว ที่มีข่าวแอปเปิ้ลจงใจทำให้เครื่องช้าลง โดยให้ลดกำลังการจ่ายไฟจากแบตเตอรี่สู่ชิปประมวลผล จนทำให้แอปเปิ้ลต้องออกมาขอโทษ รวมถึงออกโปรขายแบตเตอรี่ในราคาพิเศษ เพื่อให้ผู้ใช้งานมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ แล้ววิธีนี้สามารถช่วยให้เครื่องทำงานไว้ขึ้น หรืออายุแบตเตอรี่ดีขึ้นหรือไม่?
คำตอบคือก็ไม่เสมอไป เพราะที่ผ่านมาแบตเตอรี่ในบางเครื่องมีสภาพที่ดีอยู่แล้ว แต่ผู้ใช้ก็ยังยืนยันที่จะเปลี่ยน ดังนั้นผลลัพท์การใช้งานเครื่องที่ออกมา ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

4. ปิดสัญญาณ WIFI
จริงๆแล้วเรื่องการเปิดสัญญาณ WIFI ไม่ใช่เรื่องแย่ขนาดนั้น เพราะจริงๆแล้วในพื้นที่อับสัญญาณ การเปิด Airplane Mode แล้วใข้ WIFI แทน Cellular สามารถประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่า เนื่องจาก WIFI ใช้พลังงานน้อยกว่า

5.  เปิดใช้โหมดปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
ผู้ใช้หลายคนมักจะปรับความสว่างเองเนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น แต่แอปเปิ้ลก็ยืนยันว่า การใข้โหมดปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ดีกว่า โดยที่จริงแล้ว แม้เราเปิดโหมดนี้ทิ้งไว้ เราก็สามารถปรับความสว่างลดลงได้เอง ที่ Control Center ซึ่งก็ช่วยประหยัดแบตเตอรี่เช่นกัน… [อ่านต่อ]

ผลการทดลองชี้ เล่นโทรศัพท์ขณะขับรถอันตรายกว่าเมาแล้วขับ!!!


ในช่วงวันหยุดยาวคนไทยส่วนใหญ่มักเดินทางกลับบ้าน โดยเฉพาะทางรถยนต์ ซึ่งอัตราการเกิดอุบัติเหตุนั้นสูงขึ้นทุกปีนอกเหนือจากเมาแล้วขับ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญในยุคดิจิตอลคือการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ ที่รวมถึงการส่งข้อความระหว่างขับรถด้วย ซึ่งมีผลวิจัยจากกลุ่ม Pew Research ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า

วัยรุ่นร้อยละ 34 และผู้ใหญ่ร้อยละ 47 ใช้โทรศัพท์เพื่อส่งข้อความในขณะขับรถ อีกทั้งในปี 2008 สำนักงานทางหลวงเพื่อความปลอดภัยแห่งชาติ (NHTSA) มีรายงานออกมาว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 500,000 คน เนื่องมาจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

งานวิจัยดังกล่าวนี้ ทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่า การขาดสมาธิขณะขับรถ อาจทำให้เกิดความรุนแรง และอุบัติเหตุตามมาได้ เพราะการใช้โทรศัพท์ทำให้เราละสายตาจากถนน แม้ว่าจะเป็นแค่เสี้ยววินาที ก็สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ และในงานวิจัยยังกล่าวอีกว่า การเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ นั้นอันตรายยิ่งกว่าเมาแล้วขับ

โดยต่อมาในปี 2009 มีการทดลองเพื่อพิสูจน์ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ มีอันตรายมากกว่าเมาแล้วขับจริงหรือไม่
ในการทดลองมีอาสาสมัคร 2 คน โดยคนแรกให้ขับรถโดยไม่มีสิ่งรบกวนใดๆ ส่วนคนที่สองต้องเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถไปด้วย ในส่วนของคนที่เล่นโทรศัพท์ เขาจะเบรกรถทุกๆ 56.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนคนที่ไม่ได้เล่น จะเบรกรถทุกๆ 112.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อเทียบกัน ทั้งสองคนมีผลที่แตกต่างกันมาก แล้วต่อมาในการทดลองครั้งที่สอง โดยการให้อาสาสมัคร 2 คนมาขับรถ โดยคนแรกให้ดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนอีกคนไม่ดื่มแต่ให้เล่นโทรศัพท์ไปด้วย ผลปรากฏว่า คนที่ดื่มแอลกอฮอล์มีการตอบสนองต่อการขับขี่ ดีกว่าคนที่เล่นโทรศัพท์เสียอีก

อย่างไรก็ตาม การขับขี่ที่ปลอดภัยที่สุดคือ ขับรถอย่างมีสติ มีสมาธิ ไม่เล่นโทรศัพท์ และงดดื่มแอลกอฮอล์… [อ่านต่อ]

หลังจากรอมานาน ในที่สุด AirPods 2 ก็ใกล้เปิดตัวแล้ว

สำหรับใครที่เตรียมจะซื้อ AirPod เร็วๆนี้ ควรจะอดใจรออีกนิดนึง เพราะนักวิเคราะห์นามว่า Ming-Chi Kuo ผู้ที่มักคาดการณ์การเรื่องความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลได้อย่างแม่นยำ ได้ออกมาเผยว่า แอปเปิ้ลมีแนวโน้มที่จะเปิดตัว AirPod 2 ก่อนสิ้นปีนี้

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 แอปเปิ้ลเปิดตัว AirPod 2 พร้อม iPhone 7 ซึ่งกลายเป็นจุดสนใจแก่วงการอุปกรณ์สมาร์ทโฟนอย่างมาก เสียงที่มีคุณภาพ ไพเราะ ระบบ Auto Play/Pause ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน รวมทั้งฟังก์ชั่นคำสั่งเสียง Siri ที่แม่นยำ จนเวลาผ่านมาแล้วกว่าสองปี ทุกคนก็ต่างรอคอยก้าวต่อไปของ AirPod 2

จนล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์เผยภาพเคสสำหรับใส่ AirPod 2 ออกมาตามรูปด้านล่างนี้

ในส่วนของราคานั้น เป็นที่คาดการว่าน่าเป็นใกล้เคียงกับราคาเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อ้างอิง[อ่านต่อ]