แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

10 ฟีเจอร์ Accessibility ที่ต้องลอง ใช้ชีวิตได้ง่ายกว่าเดิมด้วย iPhone  

ฟีเจอร์ Accessibility หรือ ‘การช่วยการเข้าถึง’ ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ต่อให้คุณมีร่างกายที่สมบูรณ์ ฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ 10 ฟีเจอร์นี้ที่คุณต้องลอง!

1. Face ID ทำงานเฉพาะตอนคุณมอง iPhone

คุณสามารถตั้งค่าให้ Face ID สแกนหน้าและปลดล็อก iPhone ได้เพียงแค่หน้าคุณอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งมันก็สะดวกดีไม่น้อยเลยละ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้น

เพราะคนอื่นสามารถหยิบ iPhone มาสแกนหน้าตอนคุณหลับหรือตอนคุณเผลอก็ได้ ขอแค่ใบหน้าของคุณอยู่ใกล้ ๆ ก็เท่านั้น แล้ว iPhone ก็จะถูกปลดล็อกให้แล้ว 

แต่ไม่ต้องห่วงเพราะฟีเจอร์ที่ช่วยการปลดล็อก iPhone ทำได้ปลอดภัยมากกว่าเดิม เพราะคุณต้องมองตรงไปยังกล้องเสียก่อน iPhone ถึงจะปลดล็อกให้

วิธีตั้งค่า

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดที่ Accessibility
  3. กดที่ Face ID & Attention
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Require Attention for Face ID 
  5. ใส่รหัส Passcode 

ฟีเจอร์ Attention Aware นี้จะช่วยปลดล็อก iPhone ให้ก็ต่อเมื่อคุณมองตรงไปยังกล้อง iPhone หากว่าดวงตาคุณมองเหล่ไปทางอื่นหรือหลับตาอยู่ iPhone จะไม่ถูกปลดล็อกให้ 

2. เปิด Live Caption ตอน FaceTime

ต้องบอกก่อนว่าฟีเจอร์ Live Captions นี้ยังใช้กับภาษาไทยไม่ได้ ยังใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น 

ฟีเจอร์ Live Captions นี้จะถอดคำพูดพิมพ์เป็นตัวอักษรให้คุณแบบสด ๆ ระหว่างที่สนทนากันอยู่ ความพิเศษใหม่นี้ก็คือใช้ได้ตอนที่คุณคุย FaceTime กัน แม้ว่าจะได้ยินเสียง แต่ก็สามารถเห็นได้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

แต่ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ยังคงเป็นเวอร์ชันทดสอบ (Beta) อยู่ ดังนั้นอาจมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง 

วิธีการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Live Captions

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วกดเข้าไปที่ Accessibility 
  3. เลื่อนลงไปด้านล่างสุดแล้วกดที่ Live Caption 
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรงคำว่า Live Caoptions หรือ Live Caoptions in FaceTime ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Live Captions 

3. เพิ่มปุ่มแบบดิจิทัลให้กับ iPhone

ฟีเจอร์ Back Tap หรือ ‘เคาะด้านหลัง’ เป็นฟีเจอร์เพิ่มการสั่งงานด้วยการเคาะที่ด้านหลัง iPhone ตามจำนวนครั้งที่กำหนดเพื่อให้ทำตามคำสั่งที่กำหนด แม้ว่าหน้าจอจะเปิดอะไรค้างเอาไว้ก็ตาม

ความจริงแล้วฟีเจอร์นี้เรียกว่า AssistiveTouch และวิธีการตั้งค่าก็ทำได้ง่ายมาก เพียงทำตามนี้

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดเข้าไปที่ Accessibility 
  3. กดที่ Touch 
  4. กดที่ AssistiveTouch ซึ่งจะอยู่ด้านบนสุดของหน้าจอเลย
  5. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรงคำว่า AssistiveTouch ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งาน 

จากนั้นปุ่มสีเทาเล็ก ๆ จะปรากฏขึ้นมาตรงมุมขวาของหน้าจอ กดปุ่มนั้นแล้วคุณจะเห็นรายชื่อของปุ่มคำสั่ง (Action) ที่คุณสามารถตั้งคำสั่งได้

คุณสามารถตั้งค่าปุ่มคำสั่งเหล่านี้ได้เองตามต้องการ Single-Tap หรือ ‘เคาะหนึ่งครั้ง’ เป็นคำสั่งให้ iPhone ทำอะไร Double-tap หรือ ‘เคาะสองครั้ง’ สั่งให้ iPhone ทำอะไร หรือ Long-Press ‘กดค้างไว้’ จะสั่งให้ iPhone ทำงานหรือเปิดฟังก์ชันอะไรขึ้น คุณสามารถตั้งเองได้ตามต้องการ 

4. สั่งให้ iPhone อ่านออกเสียงให้ฟัง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ Accessibility ที่เป็นประโยชน์มาก ๆ เลยก็คือ Spoken Content ซึ่ง iPhone จะช่วยอ่านเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่อยู่บนหน้าจอให้คุณฟัง

แม้ว่าตอนนี้เสียงอ่านจะยังไม่ค่อยดี แต่มันก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ๆ หากว่าคุณต้องการอ่านไฟล์ PDF ขณะทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น ออกกำลังกายอยู่ และยังสามารถเลือกเสียงได้เอง เลือกเสียงจากภูมิภาคอื่นหรือสำเนียงอื่นได้เอง

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดเข้าไปที่ Accessibility 
  3. กดที่ Spoken Content 
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรง Speak Sreen ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ 

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้งาน Spoken Content ได้แล้ว เพียงใช้นิ้วลากให้ครอบคลุมเนื้อหาที่ต้องการบนจอด้วยสองนิ้ว จากนั้นเมนูเล็ก ๆ จะปรากฏขึ้นมาให้เลือก เมื่อเลือกแล้ว เสียงอ่านก็จะดังขึ้นมา 

5. เปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนฉุกเฉินให้ส่งเป็นการแจ้งเตือนผ่าน iPhone  

หากว่าหูคุณมีความผิดปกติ หูหนวก หรือได้ยินเสียงไม่ชัดเจนแล้ว ทำให้ไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนสำคัญหรือแจ้งเตือนฉุกเฉิน เช่น เสียงสัญญาณไฟไหม้ เสียงเคาะประตู ให้กลายเป็นการแจ้งเตือนผ่าน iPhone หรือต่อให้คุณไม่ได้บกพร่องทางการได้ยิน แต่ชอบใส่หูฟังหรือต้องใส่หูฟังเพื่อทำงานเป็นประจำ 

เพราะ Sound Recognition หรือการจดจำเสียง ซึ่ง iPhone จะช่วยจำเสียเงหล่านั้นแล้วส่งเป็นการแจ้งเตือนไปยัง iPhone ช่วยให้คุณไม่พลาดเสียงแจ้งเตือนสำคัญ ๆ 

แต่ทั้งนี้ Apple ก็ไม่ได้การันตีว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยแจ้งเตือนเรื่องฉุกเฉินหรือมีความเสี่ยงสูงได้แบบ 100% 

วิธีการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Sound Recognition

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ หาคำว่า Accessibility แล้วกดเข้าไป
  3. กดที่ Sound Recognition ซึ่งจะอยู่ด้านล่าง ๆ 
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ที่ Sound ไปทางขวาเพื่อเปิดการใช้งาน 
  5. กดที่เสียงที่ต้องการเปิดใช้งาน 
  6. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรงเสียงนั้น ๆ ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งาน
  7. กดที่ Alert Tones
  8. เลือกเสียงที่ต้องการใช้ iPhone แจ้งเตือน คุณสามารถใช้ Haptics ได้เช่นกันหากว่าต้องการให้สั่นแจ้งเตือนด้วย

6. เข้าถึงทุกพื้นที่หน้าจอได้ด้วยมือเดียว

iPhone มักมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งใช้มือเดียวควบคุมไม่ได้แล้ว หากว่าถือ iPhone ตรงฐานด้านล่าง คุณจะไม่อาจใช้มือนั้นเอื้อมไปยังด้านบนสุดของหน้าจอ ไม่สามารถเลื่อนดู Notification หรือการแจ้งเตือน หรือเข้าไปยัง Control Center ได้

แน่นอนว่าคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Back Tap ช่วยให้คุมควบได้ง่ายขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่ามันยังมีวิธีอื่นอยู่อีก เรียกว่า Reachability (การเอื้อมถึง) ซึ่งย่อหน้าจอลงมาเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงส่วนด้านบนสุดของหน้าจอได้ด้วยมือเดียว 

แต่ก่อนอื่นใด คุณต้องตั้งค่าตามนี้เสียก่อน

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วกดที่ Accessibility 
  3. กดที่ Touch
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ที่คำว่า Reachability ไปทางขวาเพื่อเปิดการใช้งาน

เมื่อต้องการใช้งานฟีเจอร์ Reachability คุณเพียงปัดหน้าจอลงมาด้านล่างด้วยมือเดียวตอนที่ใช้ FaceID หรือกดที่ปุ่ม Home บน iPhone สองครั้งติด ๆ กัน หน้าจอ iPhone ของคุณย่อขนาดความสูงลงมาเพื่อให้บริเวณด้านบนสุดขยับลงมากลางหน้าจอมากขึ้น ให้คุณกดได้ง่ายขึ้นด้วยมือเดียว เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็เพียงแค่ปัดหน้าจอกลับขึ้นไปยังด้านบนอีกครั้ง 

7. เปลี่ยน iPhone ให้กลายเป็นแว่นขยาย 

แอป Magnifier หรือแอปแว่นขยาย ถือว่าเป็นแอปที่มีประโยชน์มาก ๆ อีกหนึ่งแอป โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากพกแว่นตาตลอดเวลา

ความสามารถของแอป Magnifier ก็ตรงตามชื่อเลยก็คือเป็นแว่นขยาย คุณสามารถใช้กล้อง iPhone ให้เป็นแว่นขยายได้ ช่วยให้อ่านตัวอักษรเล็ก ๆ หรือมองเห็นของขนาดเล็กได้ง่ายมากขึ้น

วิธีใช้งานแว่นขยายก็ทำได้ง่ายมาก แค่เปิดแอป Magnifier หรือแอปแว่นขยายขึ้นมา ซึ่งแอปนี้จะถูกติดตั้งมาตั้งแต่แรกจากโรงงาน แต่ถ้าไม่เจอ คุณก็สามารถกดดาวน์โหลดได้ที่ >> แอป Magnifier << 

8. ตั้งค่าไม่ให้เอฟเฟกต์ภาพและวิดีโอเล่นอัตโนมัติ

ฟีเจอร์อีกอย่างที่ดีมาก ๆ เลยก็คือการตั้งค่าไม่ให้เอฟเฟกต์ของรูปภาพและวิดีโอเล่นเองอัตโนมัติ ช่วยกันไม่ให้พวกภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ เล่นเองโดยที่คุณไม่ได้กดสั่งให้เล่นหรือเล่นเองโดยที่คุณไม่รู้ 

วิธีการตั้งค่า

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วกดที่ Accessibility 
  3. กดที่ Motion
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรง Auto-Play Message Effects, Auto-Play Animated Images และ Auto-Play Video Previews ไปทางซ้ายเพื่อปิดการใช้งาน 

9. เขย่า iPhone เพื่อยกเลิกการทำบางอย่าง (Undo)

ฟีเจอร์ Undo หรือยกเลิกการทำบางอย่างที่คุณเพิ่งทำลงไปด้วยการเขย่า iPhone คืออีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งาน iPhone ได้ง่ายขึ้น เพราะทั้งหมดที่คุณต้องทำเลยก็คือเขย่า iPhone เพียงเท่านั้นจริง ๆ แล้ว iPhone ก็จะถามว่าคุณอยาก Undo (ยกเลิก) ทำสิ่งที่คุณเพิ่งทำหรือเปล่า เล่น เปิดแท็บ Safari ขึ้นมาอีกครั้ง หรือแม้แต่ย้าย App กลับไปไว้ตรงตำแหน่งเดิม 

ฟีเจอร์ Undo ด้วยการเขย่า iPhone ถูกตั้งเปิดเอาไว้เป็นค่าเริ่มต้น และนี่คือวิธีการตั้งค่าเปิดหรือปิดการใช้งาน 

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดที่ Accessibility
  3. กดที่ Touch
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ที่คำว่า Shake to Undo ไปทางซ้ายเพื่อปิดหรือขวาเพื่อเปิด 

ตอนนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์นี้กับการเขียนข้อความหรือ Note ใหม่ด้วย หากว่าคุณเขย่า iPhone คุณจะได้เห็นหน้าต่างขอความยืนยันว่าคุณต้องการ Undo สิ่งที่คุณเพิ่งเขียนหรือไม่ 

10. ใช้ด้านหลัง iPhone เป็นปุ่มคำสั่งพิเศษอีก 2 ปุ่ม 

Back Tap เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คุณต้องลองใช้ เพราะคุณจะเพิ่มปุ่มคำสั่งขึ้นมาได้มากถึง 2 ปุ่มเลยทีเดียว

ส่วนวิธีการทำงานก็คือเคาะที่ด้านหลังของ iPhone สองครั้งหรือสามครั้งติดกันเพื่อสั่งให้อุปกรณ์ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ เช่น เปิด Notification Center หรือถ่ายรูปหน้าจอแบบ (Screenshot) 

วิธีการตั้งค่า Back Tap 

  1. เปิดแอป Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างและกดที่ Accessibility 
  3. กดที่ Touch
  4. เลื่อนลงมาด้านล่างสุดแล้วกดเข้าไปที่ Back Tap
  5. กดที่ Double Tap หรือ Triple Tap
  6. เลือกคำสั่งที่คุณต้องการใช้กับการเคาะด้านหลัง iPhone สองหรือครั้งสามครั้ง

เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ให้ลองใช้นิ้วเคาะที่หลัง iPhone สองครั้งหรือสามครั้งติดกัน แล้วคอยดูเวทมนต์ที่จะเกิดขึ้น แต่อย่าลืมว่า หากคุณเคาะไม่แรงพอหรือใช้เคสหนาเกินไป เวทมนต์นี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้นะ 

ที่มา idropnews.com