แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

11 การตั้งค่า เปลี่ยน iPhone ของคุณให้ปลอดภัย ใช้ง่าย มีความเป็นส่วนตัว! 

แค่ตั้งค่า 11 อย่างนี้ ก็ช่วยเปลี่ยนให้ iPhone ปลอดภัย ใช้ง่าย มีความเป็นส่วนตัว และกลายเป็น iPhone แบบที่คุณต้องการจริง ๆ เป็นของคุณจริง ๆ ง่ายมากด้วย!

ทุกครั้งที่ Apple อัพเดต iOS ใหม่ ๆ ก็มักจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามมาด้วย แถมยังมีการตั้งค่าต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน ซึ่งมันดีตรงที่คุณสามารถปรับการตั้งค่าเหล่านั้นให้เป็นไปตามที่เราชอบ และนี่คือการตั้งค่า 11 อย่างที่คุณควรเข้าไปตั้งค่าให้ เพื่อให้ iPhone เป็นไปในแบบที่คุณต้องการ! 

1. เพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น

รู้หรือไม่ว่า Apple ต้องการใช้ข้อมูลการใช้งาน iPhone ของคุณเพื่อนำไปใช้ส่งโฆษณามาให้คุณโดยอิงข้อมูลการใช้งานและความต้องการของคุณ ฟังแล้วก็หลอน ๆ ใช่มั้ยละ แต่โชคดีที่ว่า Apple ยังทำตัวโปร่งใส่อยู่และคุณก็สามารถสั่งปิดฟีเจอร์นี้ได้ด้วย ตั้งค่าตามนี้เลย

  1. เปิดแอพ Settings ขึ้นมา 
  2. เลื่อนลงไปด้านล่าง ๆ แล้วเลือกตรง Privacy
  3. เลื่อนลงมาด้านล่างสุดแล้วกดที่ Apple Advertising
  4. เลื่อนปุ่มกลม ๆ ตรง Personalized Ads ไปทางซ้ายเพื่อปิดฟีเจอร์นี้ 

2. เข้าร่วมด้านมืด (Dark mode)

ด้านมืดที่ว่านี้คือโหมดมืดหรือ Dark mode นั่นเอง โหมดมืดนี้นอกจากจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่แล้ว ยังไม่ทำร้ายดวงตาของคุณเมื่อใช้งานตอนกลางคืนอีกต่าางหาก แถมยังทำให้ iPhone ของคุณดูคูลกว่าเดิมอีกด้วย งั้นมาตั้งค่ากันลยดีกว่า

  1. เปิดแอพ Settings ขึ้นมา 
  2. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดที่ Display & Brightness
  3. กดเลือกที่คำว่า Dark ซึ่งอยู่ใต้ภาพหน้าจอ เพื่อเลือกโหมดมืด

ง่ายมากเลยใช่มั้ยคะ นอกจากนี้ยังเลือกได้อีกด้วยนะคะว่าจะให้หน้าจอกลายเป็นโหมดมืดตอนไหนแบบเจาะจงเวลาลงไปเลยก็ได้ แล้วมันจะเปลี่ยนให้แบบอัตโนมัติเลย โดยกดเลือกตรง Appearance Schedule แล้วเลือก Sunset to Sunrise (พระอาทิตย์ตกจนพระอาทิตย์ขึ้น) หรือเลือก Custom Schedule (ตั้งเวลาเอง)  

3. ปิดการแชร์ข้อมูลกับ Apple

Apple จะขอแชร์ข้อมูลการใช้งานประจำวันของคุณเสมอเพื่อจะนำข้อมูลเหล่านั้นไปพัฒนาการให้บริการต่อไป แต่ความจริงแล้ว…หากคุณไม่ต้องการแชร์ข้อมูลนี้กับ Apple ก็ได้ เพียงแค่ตั้งค่าตามนี้

  1. เปิด Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงมาด้านแล้วกดเลือกที่ Privacy
  3. เลื่อนลงมาด้านล่างสุดแล้วกดที่ Analytics & Improvements
  4. เลื่อนปุ่มกลม ๆ ตรง Share iPhone & Watch Analytics ไปทางซ้ายเพื่อปิดการแชร์ข้อมูลการใช้งานของคุณ

4. ประหยัดพลังงานด้วยการปิดการทำงานแบบพื้นหลังของแอพ 

การทำงานแบบพื้นหลังของแอพ หรือ Background App Refresh คือการที่แอพจะยังคงทำงานอยู่ในโหมดสแตนด์บายคอยส่งการแจ้งเตือนต่าง ๆ ให้แม้เราจะปิดแอพไปแล้วเพื่อให้คุณได้รับข่าวสารหรือเนื้อหาใหม่ต่าง ๆ ทันที 

แต่นั่นก็หมายถึงการใช้พลังงานแบตเตอรี่ตลอดเวลา ดังนั้นหากคุณต้องการประหยัดแบตเตอรี่ คุณก็ควรปิดการทำงานแบบพื้นหลังของแอพเสีย ด้วยการตั้งค่าตามนี้

  1. เปิด Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงไปด้านแล้วกดที่ General
  3. เลือกที่ Background App Refresh
  4. กดที่  Background App Refresh 
  5. เลือกที่ Off เพื่อปิดการทำงานทั้งหมด

เพียงเท่านี้การทำงานแบบพื้นหลังหรือ Background App Refresh ก็จะหยุดลง หากคุณต้องการให้แอพไหนใช้งานฟีเจอร์ก็สามารถทำได้ โดยเลือกแอพจากรายการด้านล่างแล้วกดสั่งเปิดทีละแอพ

5. ปิดไม่ให้แอพติดตามตำแหน่งของคุณ

บริการหาตำแหน่งที่ตั้งหรือ Location Services ของ Apple มีความแม่นยำมาก ๆ และหลาย ๆ แอพก็ขอเข้าถึงตำแหน่งของคุณเพื่อจะได้ให้บริการคุณได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ความจริงก็คือ…ไม่ใช่ทุกแอพจำเป็นต้องรู้ตำแหน่งของคุณ ดังนั้นคุณสามารถปิดการเข้าถึงตำแหน่งของคุณได้ ไม่ให้แอพเหล่านั้นรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนได้ โดยตั้งค่าตามนี้ 

  1. เปิด Settings ขึ้นมา
  2. เลื่อนลงไปด้านแล้วกดเข้าไปยัง Privacy
  3. เลือก Location Services
  4. กดที่แอพที่คุณต้องปิดการเข้าถึงตำแหน่ง โดยต้องไล่ปิดไปทีละแอพ 

6. ตั้งค่าโหมดโฟกัส (Focus mode)

โหมดโฟกัส (Focus mode) ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น โดยเลือกแสดงเฉพาะแอพที่ผู้ใช้ต้องใช้ ณ ตอนนั้นและตัดเอาการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้ไม่ต้องการออกไป ผู้ใช้จะได้ใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องทำเท่านั้น ซึ่งคุณสามารถสร้างโหมดโฟกัส (Focus mode) ได้หลาย ๆ อัน แล้วเลือกใช้ให้ตรงกับช่วงเวลาและความต้องการ เช่น ออกกำลังกาย นอน หรือทำงาน 

หากคุณต้องการใช้โหมดโฟกัส (Focus mode) ต้องอัพเดต iPhone ให้เป็น iOS 15 ขึ้นไปก่อนนะคะ แล้วตั้งค่าตามนี้เลย 

  1. เปิด Settings 
  2. กดที่ Focus
  3. กดที่เครื่องหมายบวก + ตรงมุมขวาบนเพื่อสร้างโหมดโฟกัสอันใหม่ 
  4. สร้างโหมดโฟกัสอันใหม่ตามต้องการตามคำแนะนำที่ขึ้นมาทีละขั้น หรือกดเลือกโหมดโฟกัสที่มีอยู่แล้วเพื่อปรับแต่งเพิ่มเติม

หลังจากที่คุณปรับแต่งโหมดโฟกัสแล้ว คุณสามารถเรียกใช้โหมดโฟกัสเหล่านั้นได้ผ่าน Control Center แล้วกดเลือกที่ปุ่ม Do Not Disturb แล้วเลือกโหมดโฟกัสที่คุณต้องการได้เลย

7. ตั้งกำหนดเวลาของการสรุปแจ้งเตือนต่าง ๆ (Notification Summary)

การสรุปแจ้งเตือนต่าง ๆ (Notification Summary) คือฟีเจอร์ที่มัดรวมการแจ้งเตือนทั้งหลายให้ส่่งมาหาคุณตามเวลาที่คุณตั้งเอาไว้ทีเดียวหรือแล้วแต่ต้องการ ไม่ให้แจ้งเตือนแบบยิบย่อยจนคุณเสียสมาธิในการทำงาน 

  1. เปิด Settings
  2. เลือกที่ Notifications
  3. กดที่ Schedule Summary
  4. เลื่อนปุ่มไปทางขวาเพื่อเปิด Schedule Summary 
  5. ตั้งช่วงเวลาที่คุณต้องการรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ  
  6. เลือกปรับแต่งได้ว่าคุณต้องการรับการแจ้งเตือนจากแอพใดบ้าง  

8. ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้น

ทำไมเราจะต้องมานั่งเพ่งหน้าจอ iPhone ให้ปวดตากัน หากว่าตัวหนังสือบนหน้าจอมันดูเล็กจิ๋วจนมองลำบาก คุณก็แค่ปรับขนาดให้มันใหญ่ขึ้น…ก็เท่านั้นเอง

  1. เปิด Settings 
  2. เลื่อนลงมาด้านแล้วกดเลือกที่ Display & Brightness
  3. กดที่ Text Size
  4. เลื่อนปุ่มบนสไลเดอร์ไปทางซ้ายเพื่อลดขนาดหรือไปทางขวาเพื่อเพิ่มขนาดตัวอักษร 

แต่หากว่าคุณต้องการปรับขนาดตัวอักษรแบบละเอียด เราก็มีบทความแนะนำเรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ อ่านได้ที่ How to ปรับขนาดตัวอักษรบน iPhone/iPad แบบทั้งเครื่องหรือเฉพาะแอพ!

 

 


9. เพิ่มปุ่มคำสั่งใน Control Center

Control Center ถือเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก ๆ เลยเพราะช่วยให้คุณเข้าถึงเครื่องมือและการควบคุมต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงปัดครั้งเดียว และที่สำคัญคือคุณสามารถปรับแต่ง Control Center ได้เองด้วย จะเอาแอพโปรดมาใส่ไว้หรือเพิ่มคำสั่งที่ใช้บ่อย ๆ มาไว้ที่นี่ก็ยังได้

  1. เปิด Settings 
  2. กดที่ Control Center
  3. เมื่ออยู่หน้านี้ คุณจะเห็นรายชื่อแอพหรือคำสั่งซึ่งตอนนี้พวกมันอยู่ใน Control Center เรียบร้อยแล้ว ส่วนด้านล่างจะเป็นแอพหรือคำสั่งที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปไว้บน Control Center ได้ 
  4. กดที่ปุ่ม เครื่องหมายลบ – เพื่อเอาแอพหรือคำสั่งออกจาก Control Center แต่หากต้องการเพิ่มก็ให้กดที่ เครื่องหมาย + แทน
  5. หากต้องการจัดลำดับการแสดงแอพหรือคำสั่งเหล่านั้นบน Control Center คุณก็เพียงกดค้างที่แอพหรือคำสั่งเหล่านั้นแล้วลากขึ้นลงเพื่อจัดลำดับ  

10. เพิ่มปุ่มกดพิเศษให้กับ iPhone

Apple เพิ่มฟีเจอร์ Back Tap หรือเคาะนิ้วที่ด้านหลังเครื่อง เพื่อเรียกใช้งานคำสั่งพิเศษที่คุณต้องค่าเอาไว้ ซึึ่งคุณสามารถตั้งค่าได้ 1-2 แบบ ทำให้เหมือนมีปุ่มพิเศษเพิ่มขึ้นมาเลยทีเดียว 

โดยสามารถตั้งค่าได้ว่าเมื่อเคาะที่ด้านหลัง  iPhone สองครั้งหรือสามครั้ง กล้องจะเปิดขึ้นมา เปิด Notification Center เปิด Shortcut หรืออื่น ๆ ตามต้องการได้ค่ะ แต่ต้องตั้งค่าตามนี้เสียก่อน

  1. เปิด Settings
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วเลือกที่ Accessibility
  3. กดที่ Touch
  4. เลื่อนลงมาด้านล่างแล้วกดที่ Back Tap
  5. กดที่  Double Tap (เคาะสองครั้ง) หรือ Triple Tap (เคาะสามครั้ง)
  6. เลือกคำสั่งที่คุณต้องการให้ iPhone ทำเมื่อคุณเคาะตามจำนวนครั้งนั้น ๆ  

11. เลือกเสียง Siri ใหม่

รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถเลือกเสียงของ Siri ใหม่ได้หากว่าไม่ชอบเสียงเดิม แต่เฉพาะสำหรับผู้เลือกใช้ Siri เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ภาษาไทยยังไม่มีให้เลือกค่ะ ยังคงมีเสียงเดียว ขั้นตอนการเปลี่ยนเสียง Siri (ภาษาอังกฤษ) 

  1. เปิด Settings
  2. กดเลือก Siri & Search
  3. เลือก Siri Voice
  4. กดที่ตัวเลือกที่คุณอยากใช้ 
  5. กดที่ ตัวเลือกสัญชาติ เพื่อฟังเสียง Siri 
  6. เลือก เสียง Siri ที่คุณต้องการ

นอกจากนี้ IGC.in.th ยังมีเคล็ดลับการใช้งาน iPhone/iPad อีกมากมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> เคล็ดไม่ลับกับ iPhone/iPad

ที่มา idropnews.com