แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

iOS 17 กับฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ๆ ที่เพิ่มความปลอดภัยให้ชีวิต!

เพราะความปลอดภัยคือเรื่องใหญ่! Apple จึงเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้ชีวิตของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รอได้เลย iOS 17 นี้มาแน่!

การแจ้งเตือนเนื้อหาที่มีความอ่อนไหว

Sensitive Content Warnings หรือ ‘การแจ้งเตือนเนื้อหาที่มีความอ่อนไหว’ นี้ออกแบบมาให้เตือนว่าเนื้อหาต่าง ๆ ที่คุณได้รับมามีความโป๊เปลือยหรือไม่ ระบบจะทำการสแกนไฟล์ วิดีโอ หรือรูปภาพ ก่อนจะบล็อกเนื้อหาที่มีการโป๊เปลือยเหล่านั้น เพื่อกันไม่ให้คุณได้เห็นเนื้อหาเหล่านั้นโดยไม่ต้องการ 

นอกจากนี้ฟีเจอร์ความปลอดภัยนี้ยังมีตัวเลือกให้เบลอภาพในแอพ Messages, AirDrop, Contact Poster ของแอพ Phone หรือแม้แต่ข้อความใน FaceTime รวมไปถึงแอพอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้อีกด้วย 

ฟีเจอร์นี้แยกออกมาจากฟีเจอร์ Communication Safety ที่ออกแบบมาสำหรับป้องกันความปลอดภัยให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะ รวมไปถึงผู้ใช้งานทุกวัยด้วย

ภาพโป๊เปลือยจะถูกบล็อกเอาไว้ทันทีเป็นค่าตั้งต้นหลัก (ค่า Default) หากว่าฟีเจอร์นี้ถูกเปิดใช้งานเอาไว้ แต่คุณสามารถกดดูภาพได้ด้วยการกดที่ปุ่ม Show (แสดง) หากคุณต้องการใช้งานฟีเจอร์นี้ คุณเพียงต้องตั้งค่าตามนี้

  1. เปิดแอพ Settings 
  2. เลือก Privacy & Security 
  3. กดเลือกที่ Sensitive Content Warning
  4. เลื่อนปุ่ม Toggle ตรง Sensitive Content Warning ไปทางขวาให้เป็นสีเขียวเพื่อเปิดการใช้งาน

คุณสามารถเปิดใช้งาน Sensitive Content Warning เฉพาะบริการได้ เช่น AirDrop, Messages และ Video Messages รูปทั้งหมดจะถูกตรวจสอบและสแกนบนอุปกรณ์เท่านั้น  

การเช็กอินในแอพข้อความ 

Messages Check In คือฟีเจอร์ที่คุณสามารถบอกบุคคลต่าง ๆ ได้ว่าคุณกำลังไปที่ไหนเพื่อให้พวกเขาสามารถติดตามได้ว่าคุณไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยหรือไม่

ฟีเจอร์นี้จะช่วยบอกตำแหน่งของคุณให้กับเพื่อนและครอบครัว รวมไปถึงเวลาที่คุณควรจะไปถึงยังจุดหมายปลายทางด้วย และหากว่าคุณไม่กดเช็กอินในเวลาที่สมควร พวกเขาสามารถส่งเสียงสัญญาณเตือนไปหาคุณได้และเข้าถึงตำแหน่งปัจจุบันของคุณได้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และนี่คือวิธีการใช้งาน

  1. เปิดแอพ Messages
  2. เปิดแชตสนทนากับบุคคลที่คุณต้องการเช็กอิน (Check in) ด้วย 
  3. กดที่ปุ่มเครื่องหมายบวก + ที่อยู่ตรงช่องพิมพ์ตัวอักษร 
  4. กดที่ More
  5. กดที่ Check In
  6. กดที่ Continue
  7. จากนั้นทำตามคำแนะนำที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอไปเรื่อย ๆ เพื่อเริ่มการใช้งานฟีเจอร์

เมื่อคุณใช้ฟีเจอร์นี้ เพื่อนและครอบครัวของคุณจะได้รับการแจ้งตำแหน่ง ระยะเวลาที่คุณควรถึงจุดหมายปลายทาง และระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ และเมื่อคุณเดินทางถึงปลายทางแล้วระบบจะส่งข้อความแจ้งเพื่อนและครอบครัวของคุณอัตโนมัติ และหากว่าคุณเดินทางจากบ้านเพื่อนกลับไปยังบ้านตัวเองในเวลาค่ำคืน คุณสามารถใช้งาน Check In เพื่อให้เพื่อนทราบถึงการเดินทางของคุณและทราบเมื่อคุณกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว

หากว่าคุณไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที คุณจะได้รับจากแจ้งเตือนและมีเวลา 15 นาทีเพื่อกดตอบแจ้งเตือนที่ iPhone หากว่าคุณไม่ตอบสนองใด ๆ เพื่อนของคุณจะได้รับการแจ้งเตือน

การ Check In นี้จะเลือกแชร์ข้อมูลได้สองแบบกัน คือ ‘Limited/กำจัด’ ซึ่งประกอบด้วยตำแหน่งปัจจุบัน รายละเอียดแบตเตอรี่ และสัญญาณมือถือของ iPhone และ Apple Watch และอีกแบบหนึ่งก็คือ ‘Full/เต็มรูปแบบ’ ซึ่งจะแชร์ข้อมูลทั้งหมด ตั้งแต่เส้นทางที่คุณใช้เดินทาง ตำแหน่งครั้งสุดท้ายที่คุณปลดล็อก iPhone รวมไปถึงการถอด Apple Watch 

การใช้ฟีเจอร์ Check In นี้ คุณและเพื่อนหรือครอบครัวต้องใช้ iOS 17 ถึงจะใช้งานฟีเจอร์นี้ได้

Communication Safety

ปีก่อนนี้ Apple ได้แนะนำฟีเจอร์ Communication Safety ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เตือนเด็ก ๆ เมื่อส่งหรือรับรูปภาพโป๊เปลือย และจะทำการเบลอภาพนั้น ๆ พร้อมทั้งแสดงข้อความแนะนำว่าพวกเขาควรติดต่อกับผู้ใหญ่ที่พวกเขาเชื่อใจเท่านั้น 

Communication Safety ใน iOS 17 ได้อัพเดตขยายการใช้งานไปทั่วโลกแล้ว ฟีเจอร์นี้ถูกเปิดใช้งานเป็นค่าแรกเริ่ม (Default) สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปีโดยดูจาก Apple ID ที่สมัครและรวมถึงบุคคลที่อยู่ภายใต้กลุ่ม Family Sharing 

ผู้ปกครงสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ให้กับลูกวัยรุ่นที่อายุมากกว่า 13 ปีได้เช่นกัน โดยเปิดการใช้งานได้ที่แอพ Settings เข้าไปยังหมวดหมู่ Screen Time 

นอกจากขยายการใช้งานไปทั่วโลกแล้ว Communication Safety ยังขยายไปยังการใช้งานบน AirDrop ข้อความใน FaceTime แอพ Messages และแอพอื่น ๆ ที่ไม่ใช้ของ Apple อีกด้วย

แผนที่แบบออฟไลน์

แอพ Maps หรือแผนที่สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ใน iOS 17 โดยจะสามารถบอกทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้ รวมไปถึงให้ข้อมูลพื้นที่ที่คุณอยู่​ ณ ตอนนั้นได้ แม้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะไม่ได้เชื่อมต่อสัญญาณมือถือหรือ WiFi ก็ตาม 

แผนที่แบบออฟไลน์นี้มีประโยชน์มากหากว่าคุณวางแผนการเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น ออกไปเดินผ่า หรือเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบทห่างไกล การดาวน์โหลดแผนที่เอาไว้ก่อนได้โดยเลือกตำแหน่ง จากนั้นกดที่ปุ่ม More แล้วจากนั้นก็เลือก Download Map 

คุณสามารถเลือกขนาดของพื้นได้ที่ต้องการจะบันทึกเอาไว้ได้ และยังเลือกพื้นที่หลาย ๆ พื้นที่ได้อีกด้วย คุณสามารถจัดการแผนที่ที่ดาวน์โหลดเอาไว้แล้วได้ด้วยการเปิดที่แอพ Maps จากนั้นกดที่รูปโปรไฟล์ เลือกที่ Offline Maps 

คุณสามารถอัพเดตแผนที่ ลบ เปลี่ยนชื่อ หรือปรับขนาดได้ รวมไปถึงดาวน์โหลดแผนที่ใหม่จากหน้า Interface นี้ได้เช่นกัน คุณสามารถตั้งค่าการอัพเดตให้เป็นอัตโนมัติได้ และยังมีตัวเลือกสำหรับการใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์ แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อสัญญาณมือถืออยู่ก็ตาม

การแจ้งเตือนให้กินยาแบบวิกฤติ

ฟีเจอร์ Medications หรือแจ้งเตือนให้กินยาในแอพ Health ช่วยส่งการแจ้งเตือนแบบติดตามอีกครั้ง หากว่าคุณไม่ยอมกินยาและกดเลือกว่าคุณได้กินยาไปแล้วภายใน 30 นาทีหลังจากการแจ้งเตือนครั้งแรก 

Apple วางแผนจะเพิ่มฟีเจอร์ Critical Alerts หรือการแจ้งเตือนแบบวิกฤติ สำหรับการกินยาที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งข้อความแจ้งเตือนจะปรากฏบนหน้าจอ Lock Screen และส่งเสียงเตือน แม้ว่าคุณจะปิดเสียง iPhone เอาไว้หรือตั้งค่าเป็นโหมด Focus เอาไว้ก็ตาม

ที่มา macrumors.com