Apple อัปเดต iOS 26 เปลี่ยนวิธีการปิดเสียงนาฬิกาปลุก เพิ่มการแจ้งเตือนผ่านแฟลชสำหรับผู้มีปัญหาการได้ยิน และปรับ Unified View ใหม่ ดียังบ้าง ถ้าไม่ชอบต้องตั้งค่ายังไง บทความนี้มีคำตอบ!
How to: ตั้งค่าปิดเสียงนาฬิกาปลุกด้วยการกดครั้งเดียว ไม่ต้องเลื่อนปิด

Apple ปรับอีกแล้ว! ปรับการปิดเสียง Alarm (นาฬิกาปลุก) จากเดิTมที่แค่กดลงไปตรงปุ่มตรง ๆ เป็นเลื่อนสไลเดอร์ไปขวาสุดเพื่อปิดซึ่งถูกต้องเป็นค่ามาตรฐาน (Default) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่การ Snooze ยังคงทำงานเหมือนเดิมคือแค่กดธรรมดาเพียงหนึ่งครั่งเหมือนเดิม
หากคุณต้องการปรับวิธีการปิดเสียงนาฬิากาปลุกเป็นแบบเดิม คือกดแล้วปิด ไม่ต้องสไลด์ ทำได้เพียงตั้งค่าตามนี้
- เปิดแอป Settings บน iPhone ขึ้นมา
- เข้าไปที่ Accessibility
- ใต้คำว่า Physical and Motor ให้กดที่ Touch
- เลื่อนปุ่ม Toogle ที่อยู่ตรง Prefer Single Touch Action (ชอบแบบกดครั้งเดียวมากกว่า) ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งาน
หากต้องการปรับกลับไปเป็นค่ามาตรฐานหรือเลื่อนเพื่อปิด ก็ทำตามขั้นที่ 1-3 และเลื่อนปุ่ม Toggle ในข้อที่ 4 กลับไปด้านซ้ายสุดเพื่อเปิดใช้งาน
ที่มา macrumors.com
How to: ตั้งค่าเปิดแสงฟลชเป็นการแจ้งเตือน

ก่อนหน้านี้ iPhonw ไม่ได้มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนอันละเอียดอ่อนอย่างการส่องแสงแฟลชเพื่อแจ้งเตือนสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้า ส่งข้อความ หรือการแจ้งเตือนอื่น ๆ
แต่ตอนนี้ Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนด้วยแสงแฟลชกล้องหน้าแล้ว เพื่อใฟ้ผู้มีปัญหาการได้ยินสามารถมองเห็นการแจ้งเดือนได้ และ Apple ก็จะอัปเดตให้หน้าจอปรากฏแสงแฟลชสว่างวาบออกมาด้วยเช่นกัน
- เปิดแอป Settings บน iPhone ขึ้นมา
- ตรงใต้คำว่า Hearring (การได้ยิน) ให้กดที่คำว่า Flash for Alerts (แจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช)
- เลื่อนลงมาด้านล่างหาคำว่า Flash for Alerts
- เลื่อนปุ่ม Toggle ไปทางขวา แล้วกดที่ LED Flash, Screen หรือ Both เพื่อเลือกตำแหน่งที่จะแสดงแสงแฟลช
หากต้องการปิดฟีเจอร์นี้ก็เพียงแค่เลื่อนปุ่ม Toggle ในข้อ 4 กลับไปทางซ้ายก็ปิดการใช้งานเรียบร้อยแล้ว
ที่มา macrumors.com
How to: ตั้งค่ากลับไปใช้หน้าแอป Phone แบบคลาสิก

Apple ได้ปรับรูปแบบการจัดวางเลย์เอาต์หน้าตาของแอป Phone แบบ Unified View ใหม่ทั้งหมด ได้รวมเอารายการโทรประเภท Recents, Favorite Contact และ Search รวมกันไว้ในหน้าเดียว ซึ่งบางคนอาจจะชอบหรืออาจจะไม่ชอบก็ได้
เพราะสายเรียกเข้าและโทรออกทั้งหมดไปรวมกันตามลำดับเวลาโทรแบบเรียบง่ายไม่ซับซ้อน โดยที่รายชื่อผู้ติดต่อคนโปรด (Favorite Contacts) จะยังคงอยู่ด้านบนสุดเช่นเดิม และคุณยังสามารถเข้าถึง Contacts, Keypad และ Search ตรงแถบด้านล่างสุดเช่นเดิม โดยที่ข้อความเสียง (Voicemail) และสายไม่ได้รับ (Missed calls) จะถูกจัดเรียงขีดสามขีดตรงมุมขวาบนสุดของหน้า
แต่หากว่าคุณแบบเลย์เอาต์แบบคลาสสิกของ iOS 18 มากกว่า iOS 26 แล้วล่ะก็ คุณสามารถตั้งค่ากลับไปใช้เลย์เอาต์แบบคลาสสิกได้ทันที เพียงทำตามนี้

- เปิดแอป Phone ขึ้นมา
- กดที่ ขีดสามขีดตรงมุมขวาบนของหน้าจอ
- เลือกที่ Classic จากตัวข้อความป๊อปอัพที่ปรากฏขึ้นมา
หากต้องการกลับไปใช้ Unified View แบบบใหม่ก็เพียงแค่กดที่ ขีดสามขีดตรงมุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเลือกที่ Unified
ที่มา macrumors.com



