แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

iPhone 14 อาจมาพร้อม RAM 6GB และ Apple Watch ‘Pro’ ดีไซน์ใหม่

iPhone 14 อาจมาพร้อม RAM มากถึง 6GB จนกลายเป็น iPhone ที่เร็วที่สุด ส่วน Apple Watch ‘Pro’ อาจปรับดีไซน์ใหม่ ขอบไม่แบนอีกต่อไป!

iPhone 14 Pro และ Pro Max

เริ่มกันที่ iPhone 14 Pro และ Pro Max อาจใส่ Ram เข้ามาในตัวเครื่องมากถึง 6GB จนกลายเป็น iPhone ที่มีหน่วยความจำ RAM ที่ไวที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว 

รายงานยังบอกอีกว่า เฉพาะ iPhone 14 รุ่นไฮเอนด์เท่านั้นที่จะใช้ RAM LPDDR5 ขนาดความจุ 6GB ซึ่ง RAM ตัวนี้จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่า RAM มาตรฐานรุ่นเดิมซึ่งมีชื่อว่า LPDDR4X ที่อาจะใช้กับ iPhone 14 ตัวอื่น ๆ ที่เหลือ

แตกต่างจากบรรดา iPhone 13 ที่มี RAM เริ่มต้นอยู่ที่ 4GB เพราะ iPhone 14 จะใช้ RAM ขนาด 6GB ทุกรุ่น เพียงแต่ว่า RAM รุ่น LPDDR5 นั่นจะสงวนเอาไว้เฉพาะ iPhone 14 รุ่นไฮเอนด์เท่านั้น เพื่อให้ทำงานได้ดีมากกว่าและใช้พลังงานได้คุ้มค่ามากกว่า iPhone 14 รุ่นมาตรฐาน โดยแบ่งให้เห็นชัด ๆ ดังนี้

  • iPhone 14: 6GB (LPDDR4X)
  • iPhone 14 Max: 6GB (LPDDR4X)
  • iPhone 14 Pro: 6GB (LPDDR5)
  • iPhone 14 Pro Max: 6GB (LPDDR5)

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า iPhone 14 Pro และ Pro Max จะใช้ชิป A16 ส่วนรุ่นมาตรฐานตัวเริ่มต้นจะยังคงใช้ชิป A15 อยู่เช่นเดิม

Apple Watch 8

อีกข่าวที่หลายคนรออยู่ก็คือ Apple Watch 8 ที่อาจปรับดีไซน์ใหม่ โดยเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ที่อาจปรับหน้าตาใหม่หมดเป็นครั้งแรกในรอบหน้าปี 

กระแสข่าวเริ่มกลับมาพูดเรื่องนี้กันอีกครั้ง โดยบอกว่า Apple Watch 8 รุ่น Pro อาจมาพร้อมกรอบไทเทเนียมและกรอบหน้าจอไม่เป็นเหลี่ยมมุมอีกต่อไป ขนาดก็ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกนิด ประมาณ 7% 

ซึ่งข่าวลือก็ยังย้ำว่าดีไซน์ของ Apple Watch 8 รุ่น Pro นี้จะมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่วิวัฒนาการมาจากหน้าจอแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวเดิม ซึ่งเป็นการปรับการออกแบบจริง ๆ จัง ๆ ใหม่หมดนับตั้งแต่ Apple Watch 4 ที่วางขายในปี 2018 เลยทีเดียว 

นอกจากนี้ Apple Watch ตัวใหม่จะเพิ่มความแข็งแกร่งและคงทนมากขึ้นด้วยเคสที่ทำจากไทเทเนียม แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ให้ทำงานได้นานมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลาย ๆ วันผ่านโหมด Low Power แม้จะชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง 

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะข่าวยังบอกอีกว่า Apple Watch จะเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพเข้ามาด้วย เช่น เซ็นเซรอ์การวัดอุณหภูมิร่างกาย ส่วนการตรวจระดับความดันเลือดน่าทำได้ก็ในปี 2025 ส่วนการตรวจจับระดับกลูโคสในเลือดน่าจะช่วงปลาย ๆ ปี 2030 

ส่วนข่าวลือจะกลายเป็นเรื่องหรือไม่ ก็ต้องรอดูตอนปลายปีนี้ค่ะ ช่วงเปิดตัว iPhone ใหม่และอุปกรณ์สุดเจ๋ง ตัวอื่น ๆ ที่มักจัดเดือนกันยายนค่ะ 

ที่มา 1, 2