แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

5 วิธีโอนย้ายไฟล์รูปภาพจาก iPhone ไปยัง Mac สะดวกและง่าย!

ช่วงนี้เพื่อน ๆ หลายคนหันมาใช้ Mac กันเยอะมาก ๆ เลย ด้วยเพราะรุ่นใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพสูงมาก ดังนั้น IGC.in.th จึงนำวิธีการโอนย้ายไฟล์รูปภาพและวิดีโอจาก iPhone ไปยัง Mac มาฝากค่ะ ง่ายและสะดวกมาก  

1. ส่งรูปภาพผ่าน AirDrop 

AirDrop คือฟีเจอร์ที่ดีมาก เป็นตัวที่ทำให้ระบบ Ecosystem (หรือระบบนิเวศ) ของ Apple เชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย ๆ แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะถ่ายโอนภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ประเภทอื่น ๆ ระหว่างอุปกรณ์ Apple ก็ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าไฟล์นั้นจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม แถมยังไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมอีกด้วย บอกเลยว่าหลายคนย้ายมาใช้ Apple กันก็เพราะฟีเจอร์นี้ไม่น้อยเลย  

วิธีเปิดใช้งาน AirDrop บน iPhone 

  1. เปิด Settings 
  2. กดที่ General
  3. เลือก AirDrop
  4. เลือกที่ Everyone หากต้องการแชร์ไฟล์หรือรูปผ่าน AirDrop ให้ทุกคน หรือเลือก Contacts Only เพื่อเลือกเฉพาะคนรู้จักที่อยู่ในรายชื่อ 

วิธีเปิดใช้งาน AirDrop บน Mac

  1. เปิด Finder 
  2. คลิกที่ AirDrop ซึ่งอยู่ตรงเมนูด้านซ้าย
  3. คลิก Allow me to be discovered by: เพื่อเปิดสัญญาณเชื่อมต่อให้คนอื่นเห็น
  4. เลือก Everyone หากต้องการแชร์ไฟล์หรือรูปผ่าน AirDrop ให้ทุกคน

หากว่าคุณยังเปิดใช้งาน AirDrop ไม่ได้ แนะนำให้เช็กดูว่าคุณเปิด Bluetooth ที่ iPhone และ Mac อยู่หรือไม่ ถ้ายัง ก็เปิดให้เรียบร้อย แล้วจึงทำขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เปิดแอพ Photos บน iPhone
  2. เลือกรูปที่ต้องการแชร์ 
  3. จากนั้นกดปุ่ม Share ที่อยู่ตรงมถมุมซ้ายล่างของหน้าจอ
  4. กดเลือก AirDrop 
  5. กดที่ไอคอน Mac ของคุณ

จากนั้น iPhone ของคุณจะมีคำว่า Sent ปรากฏขึ้นมาให้ไอคอน Mac ของคุณ และคุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนจาก Mac ด้วยเช่นกัน 

ภาพหรือไฟล์นั้นจะถูกเก็บเอาไว้ในโฟลเดอร์ Dowload แบบอัตโนมัติ หากว่าคุณใช้ Apple ID เดียวกันทั้งสองอุปกรณ์ 

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ฟีเจอร์ AirDrop ได้แม้ว่าทั้งสองอุปกรณ์จะอยู่ห่างกัน 30 ฟุต หรือประมาณ 9 เมตรเป็นอย่างมาก 

2. นำรูปเข้า Mac ผ่านสาย USB  

จริงอยู่ที่การส่งรูปภาพและวิดีโอผ่าน AirDrop มันสะดวกมากจริง ๆ แต่หากว่าคุณต้องการย้ายรูปภาพเยอะ ๆ การนำรูปเข้า Mac ผ่านสายเสียบ USB โดยตรงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากว่าอินเทอร์เนตคุณช้าหรือไม่มีอินเทอร์เนตเลย วิธีนี้คือง่ายสุด!

  1. ต่อ iPhone และ Mac เข้าด้วยกันด้วยสาย USB 
  2. เปิดแอพ Photos บน Mac
  3. เลือกที่ iPhone ซึ่งอยู่ตรงเมนูด้านซ้าย จากนั้นปลดล็อก iPhone 
  4. คลิกเลือกไฟล์รูปหรือวิดีโอที่คุณต้องการย้ายมาไว้บน Mac 
  5. คลิกที่ Import Selected 
  6. หรือคลิกที่ Import All New Items หากต้องการย้ายรูปทั้งหมดในทีเดียว 

3. ย้ายรูปผ่าน iCloud

หากอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นของคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน คุณควรเลือกใช้วิธีส่งรูปผ่าน iCloud เพราะมันง่ายมาก คุณไม่ต้องทำอะไรเลย รูปและวิดีโอต่าง ๆ จะปรากฏในแอพ Photos ของ Mac อัตโนมัติ รวมถึงบนอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ล็อกอินลงชื่อด้วย Apple ID เดียวกัน แม้ว่าอาจจะไม่อัพเดตแบบทันทีทันใดก็ตาม 

แต่ก่อนที่จะเป็นแบบนั้นได้ คุณต้องเปิดให้ iCloud ซิงค์รูปเสียก่อน ทั้งที่ iPhone และ Mac 

วิธีการเปิดใช้งาน iCloud Photos บน iPhone

  1. ไปที่ Settings 
  2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ๆ แล้วเลือก Photos
  3. เลื่อนปุ่มตรง Toggle iCloud Photos ให้เปิด (หรือให้เป็นสีเขียว) 

วิธีการเปิดใช้งาน iCloud Photos บน Mac

  1. เปิดแอพ Photos 
  2. คลิกที่ Photos ซึ่งอยู่ตรงเมนูด้านบนของหน้าจอ 
  3. เลือก Preferences
  4. คลิกที่แท็บ iCloud 
  5. คลิกที่ iCloud Photos

เมื่อทำขั้นตอนด้านบนทั้งสองขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว รูปและวิดีโอจาก iPhone ของคุณก็จะอัพโหลดอัตโนมัติไปยัง Mac ผ่านระบบ iCloud ค่ะ

4. ย้ายผ่านใช้ระบบ Cloud ของเจ้าอื่น

หากว่าพื้นที่ iCloud ของคุณเต็ม และคุณไม่อยากเสียเงินเพิ่ม อีกทางเลือกก็คือการใช้บริการ Cloud เจ้าอื่น ๆ เช่น Dropbox เพราะมีเวอร์ชันฟรี แม้ขนาดพื้นที่จะไม่ได้เยอะมาก แค่ก็สามารถช่วยส่งไฟล์รูปภาพหรือวิดีโอไปยัง Mac ได้ด้วยการแชร์ลิงก์ และยังสามารถแชร์ไฟล์ปประเภทอื่นได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ เช่น OneDrive หรือ Google Drive อีกด้วย 

5. ส่งรูปภาพผ่านอีเมล

คุณสามารถส่งไฟล์รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์อื่น ๆ จาก iPhone ไปยัง Mac ได้โดยผ่านอีเมลค่ะ เพียงคุณเขียนอีเมลส่งไปยังเมลของตัวเอง เลือกรูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ แล้วแนบส่งไปพร้อมอีเมล จากนั้นก็เปิดอีเมลบน Mac แล้วก็เซฟไฟล์เหล่านั้นลงได้เลย ไฟล์ก็จะอยู่ในโฟลเดอร์ Dowlaod ค่ะ 

จริงอยู่ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้ง่ายที่สุด ไม่ได้อัตโนมัติ แต่ก็เป็นวิธีที่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Mac ไม่ได้อยู่ใกล้ตัวคุณค่ะ แถมไม่ต้องตั้งค่าอะไรใด ๆ เพิ่มด้วยนะคะ  

ที่มา idropnews.com