แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

ลือ! iPhone 13 อาจมี Always-On Display ถ่ายดาวได้ MagSafe ที่ดีขึ้น และอื่น ๆ 

ปีนี้ iPhone 13 มาแน่นอนใช่มั้ยคะ แต่ว่าจะมาพร้อมฟีเจอร์ไหนเนี่ยก็ต้องลุ้น และแน่นอนว่าช่วงนี้ก็จะมีข่าวหลุดออกมาบ่อย ๆ เช่นครั้งนี้ค่ะ 

กระแสข่าวนี้มาจากช่องยูทูบชื่อ EverythingApplePro ซึ่งวิเคราะห์และคาดเดาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้า Apple ได้ค่อนข้างแม่นยำค่ะ โดยช่องนำเสนอข้อมูลดังต่อไปนี้ 

มีกระแสข่าวว่า iPhone 13 อาจมาพร้อมกับ Always-On Display หรือการแสดงข้อมูลบางอย่างไว้บนหน้าจอเสมอ เช่น เวลา วันที่ ระดับแบตเตอรี่ หรืออื่น ๆ จะได้ไม่ต้องกดเปิดเครื่องหรือปลดล็อกเพื่อเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ คล้ายกับฟีเจอร์ที่เพิ่งเพิ่มเข้าไปใน Apple Watch 5 เป็นต้นไปค่ะ

มองเผิน ๆ แล้ว Always-On Display ก็ดูคล้ายกับการล็อกหน้าจออยู่แหละ เพียงแต่ยังคงมองเห็นสิ่งที่นาฬิกา แบตเตอรี่ การแจ้งเตือนต่าง ๆ มันคล้ายกับว่าคุณเป็นหน้าจอใช้งานอยู่ตามปกติ แต่ปรับแสงให้มืดลง 

สำหรับฟีเจอร์ Always-On Display นี้เหมาะมากเมื่อใช้คู่กับหน้าแบบ OLED เพราะไฟส่องสว่างของหน้าจอนี้จะแยกออกจากกันเป็นดวง ๆ เล็ก ๆ หลายดวง สามารถสั่งงานให้แต่ละดวงทำงานแยกกันได้ ไม่เหมือนกันหน้าจอแบบ LCD ที่ใช้แบล็กไลต์ส่องสว่างทั้งแผง แถมยังใช้พลังงานน้อยกว่าอีกด้วย ซึ่ง iPhone ตั้งแต่รุ่น X ขึ้นมาได้ใช้หน้าจอแบบ OLED เรียบร้อยแล้ว 

นอกจากนี้ iPhone 13 ยังอาจปรับเรต ProMotion ให้สูงถึง 120Hz แต่ไม่มีรูปร่างหน้าตาจะไม่เปลี่ยนไปจาก iPhone 12 ยกเว้นว่าอาจมีสีดำแบบด้าน (Matte Black) ให้เลือก พร้อมตัวจับที่ช่วยให้ถือและจัดได้ถลัดมือกว่าเดิม 

ส่วน MagSafe‌ ก็จะพัฒนาให้ดีขึ้น สามารถใช้แม่เหล็กไปติดกับเอสเซสเซอรี่อื่น ๆ ได้ และเพิ่มวิธีการชาร์จแบบอื่นได้ด้วย แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพการดูดของแม่เหล็กให้ดีมากขึ้นด้วยจนถึงขั้นมีข่าวลื่อว่าอาจจะต้องเพิ่มความหนาของตัวแม่เหล็กเลยทีเดียว 

กล้องของ iPhone ที่ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพด้วย โดยคราวนี้มีข่าวว่าจะใช้ถ่ายดาวได้เลยทีเดียว แถมยังใช้งานง่าย ตรวจจับและแยกดวงจันทร์กับดวงดาวได้ แถมยังใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวายเหมือนการตั้งกล้องถ่ายดาวค่ะ

และหากว่าคุณเป็นสายรักการถ่ายวิดีโอล่ะก็ iPhone 13 อาจเพิ่มฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแบบ Portait ได้อีกด้วย ซึ่งโหมดนี้จะเพิ่มความชัดลึก เบลอพื้นหลัง และเพิ่มความคมชัดให้กับตัวแบบหลักตรงกลางได้ 

ส่วนอีกฟีเจอร์ที่น่าจะเพิ่มเข้ามาใน iPhone 13 ก็คือ Touch ID แบบฝังอยู่บนหน้าจอ เพื่อให้สามารถปลดล็อกด้วยการสแกนนิ้วผ่านหน้าจอ หากว่าไม่สามารถใช้ Face ID ได้ ซึ่งเหมาะมากเลยเพราะตอนนี้ผู้คนต้องใส่หน้ากากกันโรคเป็นเรื่องปกติทุกวันแล้ว 

สุดท้ายนี้ iPhone 13 อาจเปิดตัวช่วงปลาย ๆ ปี ประมาณเดินกันยายนอย่างเช่นทุกปีค่ะ ดังนั้นก็ต้องลุ้นกันสักหน่อยนะคะว่าข่าวด้านบนนี้จะกลายเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหนค่ะ 

ที่มา macrumors.com