แจ้งโอนเงิน วิธีสั่งซื้อ
ตรวจสอบราคา How to buy สามารถสั่งซื้อได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.

นาซ่าหัวเสีย เพราะคนมองว่า “ดาวตกพุ่งชนโลก”เป็นเรื่องตลก

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม นาซ่า ได้ออกแถลงการณ์ต่างๆบ่อยครั้งเกี่ยวกับการค้นพบทางอวกาศ และไม่นานมานี้เอง ก็ได้ออกมาเตือนเรื่องความเสี่ยงที่โลกจะถูกพุ่งชนด้วยดาวตกขนาดยักษ์ ที่มีอนุภาพการทำลายล้างเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณูในฮิโรชิม่าถึง 30 เท่า

โดยล่าสุดในงานประชุม International Academy of Astronautics ‘Planetary Defense Conference (29 เมษายน 2019) นายจิม ไบรเดนสไตน์ ผู้บริหารองค์กรน่าซ่า ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นที่ชาวโลกตอบสนองต่อภัยคุกคามในเหตุการณ์ “ดาวตกพุ่งชกโลก” ว่าเป็นเหมือนเรื่องตลก ซึ่งเขายืนยันว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกเลย

เมื่อมองย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ก็เคยมีเหตุการณ์ดาวตกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร เดินทางด้วยความเร็ว 40,000 ชั่วโมง ได้พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก และระเบิดเหนือเสียงเหนือเมืองเชเลียบินสค์ ในประเทศรัซเสีย ซึ่งมีผู้ที่บันทึกภาพอันน่าสะพรึงกลัวดังกล่าวได้อย่างชัดเจน

เมื่อมาดูแบบจำลองของนาซ่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้น”ประมาณ 60 ครั้งต่อปี” ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะอย่างไรก็ตามนาซ่ายังคงมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของชาวโลกต่อไป ถ้าหากวันหนึ่งมีความจำเป็นต้องมีการอพยพเกิดขึ้น แล้วประชาชนยังคงเฉื่อยชามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องล้อเล่น นาซ่าก็คงจะช่วยทุกคนไม่ได้

อ้างอิง[อ่านต่อ]

รายได้หดหนัก ต้องยอมปรับตัว Marriot เตรียมปล่อยแอปจองห้องเช่ามาสู้ Airbnb

ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย The Wall Street Journal โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยว่า โรงแรมเครือ Marriott  เตรียมเปิดบริการใหม่ให้เช่าที่พักคล้าย Airbnb

ข่าวนี้ค่อนข้างมีน้ำหนัก และความเป็นไปได้มาก เพราะก่อนหน้า Marriott ได้ทำการทดลองโครงการให้เช่าบ้านระยะสั้นในหลายเมืองในยุโรป รวมกว่า 300 แห่ง ซึ่งผลลัพท์นั้นค่อนข้างน่าสนใจ เพราะคนที่เช่าบ้านมีแนวโน้มที่จะพักอาศัยในบ้านเช่านานกว่าโรงแรม โดยปกติแล้ว บ้านเช่าจะมีความเป็นส่วนตัว ห้องครัว และพื้นที่ใช้สร้อยอื่นๆที่ดีกว่า

หาก Marriott นั้นกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะในช่วงที่ผ่านมา Airbnb ต้องพบเจอปัญหาหลายอย่าง ทั้งด้านกฎหมาย และเรื่องความปลอดภัยของผู้พัก

แหล่งข่าวรายงานอีกว่า การให้บริการดังกล่าวน่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
อ้างอิง[อ่านต่อ]

ฟีเจอร์ใหม่สุดแหวกแนว …ใช้เมาส์กับ iPad?

นาย Federico Viticci นักเขียนจากเว็บไซต์ MacStories ได้แชร์ข่าวลือเกี่ยวกับฟังก์ชั่นใหม่บนiPad  ว่าแอปเปิ้ลอาจเปิดให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเมาส์ USB เข้ากับ iPad เพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

และต่อมานักพัฒนาชื่อ  Steve Troughton-Smith ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่าฟังก์ชั่นดังกล่าวจะสามารถเชื่อมต่อเมาส์ USB ได้จริงๆ แต่จะไปอยู่ในโหมด Accessibility หรือโหมดผู้พิการ

จากการคาดการณ์ ฟังก์ชั่นนี้น่าจะคล้ายกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป นั้นคือมีลูกศร เพื่อใช้เลื่อนไปตำแหน่งต่างๆ แทนการใช้นิ้วมือ

อ้างอิง[อ่านต่อ]

มาร์คเจออีกปัญหา เฟสบุ๊คอาจเปิดช่องให้พาสเวิร์ดรั่วกว่า100ล้านรายชื่อ

จากรายงานของ cnet กล่าวว่า คณะกรรมการความปลอดภัยด้านข้อมูลแห่งประเทศไอร์แลนด์ กำลังสอบสวนเรื่องการจัดเก็บข้อมูลพาสเวิร์ดที่ไม่รัดกุมของเฟสบุ๊ค สืบเนื่องมาจากประเด็นที่ว่า เฟสบุ๊คจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบของไฟล์ตัวหนังสือธรรมดา จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจเปิดช่องให้พนักงานภายในของเฟสบุ๊คสามารถนำไปใช้ในทางมิชอบได้อย่างง่ายดาย

คณะกรรมการได้รับรายงานว่า มีข้อมูลพาสเวิร์ดหลายร้อยล้านรายชื่อ จากทั้งเฟสบุ๊ค และอินสตาแกรม ที่ถูกจัดเก็บในรูปแบบไฟล์ตัวหนังสือธรรมดา ซึ่งคณะกรรมการจะใข้เวลาในสัปดาห์นี้ ในการตรวจสอบว่าการกระทำของเฟสบุ๊คนั้น ขัดต่อกฏ และข้อบังคับของกฎหมายด้านความปลอดภัยทางข้อมูลของสหภาพยุโรปหรือไม่

อย่างไรก็ตามเฟสบุ๊คยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆต่อการสืบสวนดังกล่าว
อ้างอิง[อ่านต่อ]

ถึงจะแพงแค่ไหน แต่ก็ยังมีจุดเด่นของแอปเปิ้ลที่หาในแอนดรอยด์ไม่ได้

“ราคาแพง แต่แพงเพราะคุณภาพ” หนึ่งในหลายความเห็นจากผู้ใช้ไอโฟนในปัจจุบัน แม้ว่ากระแสจากคู่แข่งอย่าง Huawei P30 ที่เด่นด้านกล้องคมชัด หรือฝั่ง Samsung ที่ออกนวัตกรรมมือถือแบบใหม่มาเรื่อยๆ แต่กลุ่มผู้ใช้ไอโฟนยังคงยืนยันถึง 3 จุดเด่นของไอโฟน ที่สมาร์ทโฟนเจ้าอื่นยังสู้ไม่ได้

  1. ระบบปฏิบัติการ iOS

แม้ว่าระบบปฏิบัติการของแอนดรอยด์จะสามารถปรับแต่ง และมีความสวยงามกว่า เนื่องจากทาง Google ได้เปิดให้ไปพัฒนาต่อยอดอย่างเสรี แต่พอมาดูเรื่องความเสถียรในการใช้งานแล้ว ฝั่ง iOS ค่อนข้างดีกว่า และมีปัญหาน้อยกว่ามาก โดยเฉพาะเรื่องเครื่องค้างที่ผู้ใช้แอนดรอยด์ดูจะคุ้นชินกับปัญหานี้ไปแล้ว

  1. แอปพลิเคชั่นที่ได้มาตราฐาน

ใน AppStore นั้นน้อยมากที่เราจะเจอแอปพลิเคชั่นที่แฝงไวรัส หรือไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากทางแอปเปิ้ลค่อนข้างเข้มงวดกับทางผู้พัฒนามาก ซึ่งต่างจากฝั่งกูเกิ้ลที่สามารถปล่อยแอปได้ง่ายกว่า จึงนำมาซึ่งปัญหาแอปที่ไม่สมบูรณ์อยู่เต็มไปหมด

  1. บริการหลังการขายที่ดีเลิศ

นับว่าเป็นจุดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับผู้ใช้ไอโฟน เพราะหลายครั้งที่เครื่องมีปัญหา เราสามารถเดินเข้าไปในร้านแอปเปิ้ลเพื่อขอคำแนะนำ และส่งเครมด้วยความรวดเร็ว หรือบางครั้ง ถ้าทางดีลเลอร์ไม่ยอมรับเคลมหรือเปลี่ยน เราก็สามารถอีเมล์ไปหาแอปเปิ้ลสำนักงานใหญ่ เพื่อแจ้งปัญหา ซึ่งสุดท้ายก็มักจะรับฟัง และยอมให้เปลี่ยนเครื่องจนได้

โดยรวมแล้ว แม้ว่าไอโฟนจะมีราคาสูง แต่เมื่อมองจากจุดเด่นเหล่านี้แล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปเลยทีเดียว… [อ่านต่อ]

วาดรูปอัตโนมัติ ถึงฝีมือจะแย่แค่ไหน ก็มีรูปสวยได้ ที่สำคัญใช้ฟรี

โปรแกรมวาดภาพที่ทุกคนต้องเคยใช้ คงจะหนีไม่พ้น Paint แต่ก็มีข้อเสียคือ ถ้าไม่มีเมาท์ปากกา หรือมือไม่นิ่งพอ เวลาจะวาดจะเขียนก็จะต้องมีแต่เส้นเบี้ยวๆ ดูไม่เป็นรูปแน่นอน แต่ด้วยโปรแกรมออนไลน์ AutoDraw จะสามารถช่วยให้ทุกคนสามารถวาดภาพได้อย่างง่ายขึ้น

ขึ้นตอนการใช้งานถือว่าสะดวกมาเลยทีเดียว เนื่องด้วยใช้ระบบ Cloud เราจึงไม่ต้องดาวน์โหลด และติดตั้ง เพียงเข้าไปที่หน้าเว็บ https://www.autodraw.com/  จากนั้นเราก็สามารถใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า AutoDraw โดยเมื่อเราวาดรูปอะไรก็ตาม โปรแกรมจะทำการเดารูปที่เราวาด (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะถูก)

เมื่อวาดเสร็จแล้ว ก็สามารถเลือกกดดาวน์โหลด หรือกดแชร์ได้เลย โดยรวมถือเป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์สำหรับคนที่อยากได้รูปสวยๆ แต่ใช้ Illustrator และ Photoshop ไม่คล่อง สนใจก็ลองไปเล่นได้ที่ https://www.autodraw.com/[อ่านต่อ]

ขาลงของ Apple ที่คล้ายกับ Nokia “มั่นใจในตัวเองมากไป จนลืมฟังลูกค้า”

ย้อนกลับไปในยุคต้นปี 2000 โทรศัพท์เคลื่อนที่ยอดนิยมคงหนีไม่พ้น Nokia ซึ่งในเวลานั้นได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยทาง Nokia ก็ได้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมาที่ชื่อว่า “ซิมเบี้ยน” ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ Nokia ชะล่าใจ และมองเกมผิด

เมื่อเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟน และจอสัมผัส แบรนด์อื่นๆต่างออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ Nokia ยังคงดื้อดึงออกผลิตภัณฑ์โทรศัพท์หน้าตาเดิมที่มีปุ่มกด ไม่ยอมให้โทรศัพท์ของตัวเองใช้ระบบแอนดรอยด์  และพยายามพัฒนาระบบซิมเบี้ยนเพื่อรักษาลูกค้าไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าก็ได้ให้คำตอบแก่ Nokia ผ่านยอดขายที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดต้องยอมขายกิจการให้ Microsoft และกลายมาเป็น Window phone ต่อมา (ซึ่งก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก)

คำพูดของ CEO บริษัท Nokia ในวันที่ขายกิจการนั้น สะท้อนถึงทัศนคติการบริหารได้อย่างชัดเจน นั้นก็คือ “เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงแพ้” หากพูดอย่างตรงไปตรงมาคงตอบได้เพียงว่า Nokia มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ว่าสามารถเป็นผู้นำตลาดมือถือได้อีกครั้ง เพราะก็เคยเป็นมาก่อนแล้วจริงๆ ถึงได้เดินหน้าพัฒนาซิมเบี้ยนทั้งที่ผู้ใช้น้อยลง

เมื่อหันมามอง Apple ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ามีสัญญาณหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คำพูดของ Tim Cook ประธานบริษัท Apple ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ถึงราคาแพง แต่ก็ยังมีคนซื้อ” ซึ่งเมื่อดูยอดขายในไตรมาสที่ผ่านมา จะค่อนข้างสวนทางกับคำพูดนั้นพอสมควร เพราะ iPhone XS ที่ออกมาใหม่นั้นไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมาก รวมถึงราคาที่เหล่าสาวกบ่นว่าแพงเกินไป และรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มค่านัก

อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยังคงศรัทธาในแบรนด์ของ Apple ในเรื่องคุณภาพ และการให้บริการหลังการขาย แต่ถ้าในสองสามปีนับจากนี้ Apple ไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆออกมาที่สร้างความ”ว้าว”ได้เหมือนสมัย Steve Jobs รวมถึงยังคงตั้งราคาสินค้าที่สูงแบบนี้ อนาคตเราอาจเห็นแอปเปิ้ลแพ้ภัยตัวเองเหมือนกับ Nokia … [อ่านต่อ]

ยอดขายไม่รุ่ง มามุ่งทางเกมดีกว่า แอปเปิ้ลทุ่มเงินกว่า 500 ล้านใน Apple Arcade หวังดึงผู้ใช้กลับมา

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แอปเปิ้ลประกาศบริการใหม่ชื่อว่า Apple Arcade บริการรายเดือนที่สามารถเล่นเกมบนไอโฟน ไอแพ็ด แม็คบุ๊ค และแอปเปิ้ลทีวีได้ โดยแอปเปิ้ลให้คำสัญญาว่าจะมีเกมมากกว่า 100 เกมที่คัดสรรมาเพื่อบริการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งดูเหมือนว่าคำสัญญานี้จะสร้างรายจ่ายมหาศาล โดยแหล่งข่าวจาก Financial Times ระบุว่า แอปเปิ้ลได้ใช้เงินถึง 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อดึงนักพัฒนาเกมสำหรับบริการนี้

แอปเปิ้ลได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า Apple Arcade จะมีเกมจากค่ายดังๆอย่าง Annapurna Interactive, Bossa Studios, Cartoon Network, Finji, Giant Squid, Klei Entertainment, Konami, Lego , Mistwalker, Sega, Snowman และ Ustwo เมื่อดูจากรายชื่อแล้วถือว่ามีความหลากหลายมาก แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเกมออกมามากนัก

ดังนั้นงานนี้แอปเปิ้ลถือว่าเดิมพันสูงพอสมควร เพราะหากเปิดตัวออกมาแล้วไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีนั้น ผู้ใช้คงได้หนีไปซบค่ายอื่นมากขึ้นแน่นอน
อ้างอิง[อ่านต่อ]

“ถึงขายแพงแค่ไหนก็มีคนซื้อ” คำพูดของ CEO บริษัทแอปเปิ้ลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเหมือนว่าจะไม่เป็นจริง

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แอปเปิ้ลได้เปิดเผยผลประกอบการของ 3 เดือนแรก โดยมีการคืนทุนระหว่าง 1 เเสนล้านดอลลาร์ เเละ 1.5 เเสนล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้น โดยการซื้อคืนหุ้นเเละจ่ายเงินปันผลของบริษัทเกิดขึ้น ภายหลังผ่านการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐไปเมื่อปีที่เเล้ว ซึ่งเเอปเปิลต้องใช้เงินคืนมากกว่า 2.5 เเสนล้านดอลลาร์ ในต่างประเทศ

ดูจากผิวเผินอาจจะมองว่าบริษัททำกำไรมากพอที่จะปันผลได้ แต่ในความเป็นจริงนักวิเคราะห์กลับมองว่า แอปเปิ้ลยอมจ่ายเงินคืนทุนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นเท่านั้น เพราะยอดขายของไอโฟนยังถือว่าน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า iPhone XS นั้น สร้างความผิดหวังให้แก่สาวกแอปเปิ้ล ด้วยราคาที่แพงจนเวอร์ และไม่มีอะไรใหม่ที่สร้างความ”ว้าว” มากพอให้คนกลับมาซื้อ ซึ่งต่างจากค่าย Huawei ที่เป็นสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลกโซเชี่ยล ด้วยการออกสมาร์ทโฟนรุ่น Huawei P30 Pro ที่อนุภาพของกล้องนั้นถูกขนานนามว่า ซูมได้ถึงดวงจันทร์

เหมือนว่าคำพูดของ ทิม คุก ที่กล่าวไว้ปีก่อนนั้นว่า “ถึงขายแพงแค่ไหนก็มีคนซื้อ”  คงจะไม่เป็นจริงซะแล้ว… [อ่านต่อ]

ประกาศผู้โชคดีประจำเดือน มีนาคม 2562

รายชื่อผู้โชคดีสำหรับท่านที่ใช้บริการ iTunes Gift Card กับทาง IGC.IN.TH ในช่วงเดือน มีนาคม 2562 มาแล้วจ้า

ผลประกาศผู้โชคดี 3 ท่านประจำเดือนนี้ จะมาจากการสุ่มรายชื่อท่านที่สั่งซื้อผ่านระบบอัตโนมัติต่างๆ หรือแจ้งชำระเงินผ่านระบบออนไลน์บนหน้าเวปเท่านั้น โดยผู้โชคดีทั้ง 3 ท่านจะได้รับรางวัลบัตร iTunes Gift Card มูลค่า $25, $15 หรือ $10 ท่านละ 1 รางวัล[อ่านต่อ]